บ้านสไตล์กระท่อม มีเสน่ห์ความน่ารัก

บ้านสไตล์กระท่อม บ้านกระท่อมในยุคต้น เกิดขึ้นตั้งแต่มนุษย์ เราเริ่มคิดที่จะสร้างที่อยู่อาศัยเป็น หลักแหล่ง เริ่มจากกระท่อมไม้มุง ด้วยหลังคาจาก หรือแฝก พัฒนามาเป็นกระท่อม ของชาวนาที่เรียบง่ายอยู่สบาย และมีวิวัฒนาการข้ามศตวรรษ มาสู่บ้านกระท่อมในยุค โลกาภิวัฒน์ที่มีเสน่ห์น่ารักสำหรับ

การมาใช้ชีวิตครอบครัว ที่หลบจากความสับสน ของชีวิตประจำวันมาสู่ความเงียบสงบ และอบอุ่นในกระท่อมน้อยนี้ จากศตวรรษหนึ่ง สู่ศตวรรษหนึ่ง บ้านทรงกระท่อม ก็ได้แปรเปลี่ยนรูปร่าง ไปหลายแบบตามอิทธิพลของวัฒนธรรม และสังคมในแต่ละสมัยจาก บ้านกระท่อม หลังคาแฝกทรงอังกฤษ (English cottage) มาสู่ กระท่อมทรงคลาสสิกเคปคอต (Cape Cod cottage) และพัฒนามาเป็นบ้านทรง กระท่อมที่มีรูปแบบ เป็นบ้านอยู่อาศัยอันทันสมัยของผู้คนในยุคปัจจุบัน

รากฐานของ บ้านทรงกระท่อม ได้เริ่มต้นขึ้น ในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 จากการเป็นบ้านในสไตล์ ระดับกลางที่คั่นระหว่าง ปราสาทราชวังอันหรูหราของเหล่าขุนน้ำขุนนาง และบ้านชาวนาที่ยากจน

คอตเทชเป็นบ้านของ ชาวชนบทที่มีฐานะปานกลาง มีขนาดพอเหมาะและมีการตกแต่งที่ งดงามเหมาะกับฐานะ พื้นที่ใช้สอยเป็นบ้าน ขนาดสองชั้น ชั้นบนเป็นส่วนห้อง นอนมีหลังคาสูงชัน และมีขนาดกว้าง ขวางกว่ากระท่อมมุงแฝก

ในช่วงปลายทศวรรษ ค.ศ. 1800 กระท่อมในอังกฤษ ก็ได้แปรรูปโฉมเป็นกระท่อมน้อยที่ได้รับ การประดับตกแต่งราว กับภาพเขียน ด้วยเครื่องตกแต่งอย่างในยุคกลางคือ หน้าต่างกระจก แบ่งซอยเป็นรูปสี่เหลี่ยม ขนมเปียกปูน มีกันสาดเล็กๆ คลุมหน้าต่าง หลังคาสูงชัน เป็นบ้านที่ชวนฝันอย่างในเทพนิยาย

กระท่อมรุ่นแรกเริ่ม จากการก่อสร้างของ ชาวอังกฤษที่อพยพ เข้ามาตั้งถิ่นฐานที่แมทซาชูเสทส์ และได้นำเอาวัฒนธรรม กับรูปแบบของบ้านทรงกระท่อมติดมาจาก ถิ่นฐานเดิมของตน จากหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์เราพบว่าชาวอังกฤษมาตั้งบ้าน เรือนอยู่ที่พลีมัท โดยสร้างกระท่อมที่มีขนาดพื้นที่ประมาณ 440 ตารางฟุตหรือประมาณ 40 ตารางเมตร บางครั้งก็น้อยกว่านั้นตามแต่ที่ครอบครัว ของตนจะมีกำลังสร้างได้ บ้านทำเลดี

รูปแบบของบ้านกระท่อม สร้างขึ้นจากไม้โอ๊ค และหิน หลังคาคลุมด้วยอ้อหรือฟาง ฝาทำด้วยไม้โอ๊คหรือไม้ขัดแตะ และใช้แผ่นไม้ปิด อีกชั้นหนึ่ง บางครั้งฉาบผิวด้วยดินทราย และหญ้าเพื่อป้องกัน น้ำซึมเมื่อฝนตกหนัก

บ้านสไตล์กระท่อม

ช่วงระยะเวลา 10 ปีต่อจากนั้น ผู้คนที่มาตั้งถิ่นฐานใหม่ ต่างยุ่งอยู่กับการสร้างบ้านเรือนของตน นับตั้งแต่บ้าน ที่เรียบง่ายสมถะ จนถึงแบบบ้านที่งดงามหรูหราโดยมีรูปแบบพื้นฐาน มาจากบ้านกระท่อม พื้นถิ่นของอังกฤษซึ่งเปรียบเสมือนกับแผ่นดินแม่ของตนนั่นเอง จนมาถึงช่วงปลายศตวรรษที่ 18 บ้านทรงกระท่อมได้เริ่มปรากฏ โฉมอย่างโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ ในสหรัฐอเมริกา ด้วยรูปทรงบ้านที่มีหลังคา เดี่ยวทรงจั่วสูงชัน ซึ่งเป็นรูปแบบของ บ้านกระท่อมทรงเคปคอต ที่คงอยู่ในปัจจุบัน  บ้านจัดสรร

ผู้สร้างกระท่อมที่เคปคอต เป็นกลุ่มแรก คงไม่คิดว่ากระท่อม หลังน้อยนี้ จะกลายเป็นต้นแบบ ของบ้านทรงกระท่อม ในสหรัฐฯ เพราะในสมัยนั้นที่เคปคอตดูจะเป็นแห่งเดียวที่ มีวัสดุก่อสร้างครบครัน ซึ่งแตกต่างจากมลรัฐอื่นๆ ในสหรัฐ กระท่อมเคปคอต

ปรากฏโฉมออกมาได้อย่าง น่ารักด้วยสัดส่วนที่ พอเหมาะของช่วงเสา 10 ฟุต x 10 ฟุต ที่สามารถลากต่อกันลงบน พื้นทรายแสดงแปลน และนำไปสร้างณสถานที่ต่างๆได้โดยใช้แบบเดียวกัน กระท่อมเคปคอตจึง กลายเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานการสร้างบ้านในสหรัฐฯ

กระท่อมเคปคอต ประกอบด้วย โถงอเนกประสงค์ 1 ห้อง และเฉลียงทางเข้าเล็กๆพร้อมด้วยเตาผิง ซึ่งดูเหมือนจะเป็นหัวใจ ของบ้านเลยทีเดียว ส่วนฝาด้านนอกทำด้วย ไม้ตีเกล็ดตามนอน หน้าต่างบานเลื่อน ขึ้นลงแบ่งซอยเป็นลูกฟักเล็กๆมีสัดส่วนอยู่ที่ 12 ช่อง สำหรับบานล่างและ 8 ช่อง สำหรับบานบน มีกันสาดเล็กๆ เหนือหน้าต่าง เพราะเนื่องจากพื้นที่บริเวณ นี้มีลมแรงหากมีกันสาดใหญ่ก็จะทำให้ เกิดความเสียหายเวลามีพายุได้

เมื่อกระท่อมคลาสสิกหลังนี้ ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ และพันธุ์ไม้ที่เลื้อยพันอยู่โดยรอบไม่มีผู้ใด จะปฏิเสธได้ถึงความงามน่ารัก มีเสน่ห์ของกระท่อม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้บ้านทรงกระท่อม ได้รับความนิยมอย่างต่อ เนื่องมาจนถึงปัจจุบัน  บ้านแฝด 

บ้านสไตล์กระท่อม

ไอเดียบ้านสไตล์กระท่อมสวยๆ

ในยุคก่อนเราคงได้ เห็นนายหน้าอสังหาริม ทัพย์มองหาที่ดินสวย ๆ บ้านสวย ๆ เพื่อขายทำกำไร แต่ยุคนี้กลับต่างออกไป ตรงที่จะมีคนมองหาบ้านเก่า ตึกเก่าเอามาทำงาน ปรับปรับปรุงใหม่แล้ว ขายให้คนอยากได้ บ้านในราคาที่ถูกลงกว่าซื้อบ้านมือหนึ่ง บ้านหลังนี้ก็เป็นหนึ่ง ในโครงการปรับปรุงบ้านเก่าที่สร้างในปี 1954 อยู่กลางทะเลทราย แคลิฟอร์เนียอันเงียบสงบ

ซึ่งหลุดรอดมาถึงยุคนี้ได้ ในสภาพทรุดโทรม แต่นักออกแบบ Kelly Kai ก็สามารถเปลี่ยนแปลงให้ที่นี่ให้ กลายเป็นบ้านพักตากอากาศให้เช่าที่เก๋ไก๋ได้แบบไม่ยาก

Kelly Kai ใช้เวลาวันว่างนั่งเลื่อนดูรายชื่ออสังหาริมทรัพย์ไปเรื่อย ๆ จนมาเจอที่แห่งนี้ใน Morongo Valley เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าต้องไปเยี่ยมชมด้วยตนเอง ซึ่งภาพแรกที่เห็นต้องบอกว่าไม่ได้รู้สึกว่ามาสำรวจบ้าน แต่เหมือนกำลังการเดินข้ามกองเศษหิน หรืออิฐมากกว่า แม้จะเป็นแบบนั้แต่เธอกลับรู้สึกประทับใจกับสิ่งที่เธอเห็น เพราะสภาพแวดล้อมใจกลางหุบเขาที่สวยงามดูเงียบสงบ และเค้าโครงบ้านก็มีความน่ารักบางอย่างที่มองเห็นภาพทันทีว่าปรับปรุงแล้วหน้าตาจะออกมาในทิศทางไหน

ตกแต่งสวยหรุ

หลังปรับปรุง จะเห็นว่าหน้าตาของ บ้านเปลี่ยนไปดูดีขึ้นผ่านวัสดุที่เปลี่ยนใหม่ จากแผ่นไม้เป็นอิฐและปูนเปลือยที่ดูเข้ากันได้กับผืนดินและทรายรอบ ๆ ฟังก์ชันนอกบ้านวางไว้ หลายจุดมีพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหารกลางแจ้ง ที่ได้รับการปกป้องจากแสงแดดด้วยซุ้มระแนงไม้

นอกพื้นที่นั่งเล่นหลักเป็นเลานจ์ทรงเตี้ย ๆ และที่เก็บฟืน ทำให้มีจุดซึมซับบรรยากาศนอกบ้านที่หลากหลาย ไม่อุดอู้อยู่แต่ในบ้าน ภายในรื้อเพดานเผยให้เห็นโครงสร้างไม้ที่สวยงาม ส่วนโครงสร้างอื่นๆ ที่ไม่บุบสลาย เช่น ผนังและพื้นคอนกรีตก็คงเอาไว้ phuket property

“สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับฉันคือมุมมอง” นี่คือเหตุผลว่าทำไมเมื่อเข้าสู่ห้องหลักขนาดใหญ่สำหรับนั่งเล่นพักผ่อน จึงเห็นหน้าต่างใหม่เน้นความสูงของเพดานและจัดกรอบใส่ทิวทัศน์ ทะเลทรายที่อยู่ด้านนอกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน เคลลี่ต้องการเน้นบรรยากาศที่สวยงาม เธอจึงใส่หน้าต่างให้มากที่สุด

ซึ่งต่างจากบ้านเดิมที่ค่อนข้าง ปิดแทบไม่มีประตูหน้าต่างเพราะต้องป้องกันทราย ทันทีที่ทุกคนเข้าไปในห้องสิ่ง แรกที่ต้องได้เห็นก็คือวิว และอันดับต่อปคือความรู้สึกอบอุ่นที่โอบล้อม อยู่ทุกที่ พื้นที่นั่งเล่นหลักนอก จากจะมีเตาผิงให้ความอบอุ่นในฤดูหนาวแล้ว ยังมาพร้อมห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร และเลานจ์ครบพร้อมความ ต้องการใช้งานในจุดเดียวไม่ต้องเดินไกล ๆ

ซึ่งในบ้านนี้ไม่ได้ห้อง นั่งเล่นห้องเดียว ยังมีห้องนั่งเล่นพิเศษซึ่งมีโซฟา ครัวขนาดเล็ก และเตาตั้งพื้นอยู่อีกหนึ่งห้อง ด้วยวิธีนี้ถ้าผู้ใหญ่กำลังทำอาหารอยู่ในห้องหลัก เด็ก ๆ ก็สามารถเล่นที่อื่นที่ ไม่รบกวนกุ่มผู้ใหญ่ได้ หรือถ้าเด็กๆ หลับไปแล้ว ก็มีพื้นที่เลานจ์ที่สอง สำหรับผู้ใหญ่ให้นั่งแฮงค์เอาท์สบาย ๆ Kelly ยังได้เพิ่มหน้าต่างช่องแสง เพื่อเพิ่มแสงและทิวทัศน์ ของยอดเขาในห้องนั่งเล่นที่สอง ใครต้องการใช้งานแบบไหน เลือกนั่งและจับจองมุมมองที่ต้องการได้ตามสบาย

ห้องนังเล่น

มุมทานข้าวที่ตกแต่งเรียบง่าย

แต่ให้ความรู้สึกสวยงามจน อยากนั่งทานอาหารทั้งวัน ด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ปูด้วยผ้าขนสัตว์เทียม ม้านั่งวางหมอนรองสีธรรมชาติ เก้าอี้อาร์มแชร์หวายที่ได้กลิ่นอายบ้านแบบ กระท่อมในชนบท

เคลลี่ปลูกต้นกระบองเพชร ซึ่งเป็นต้นไม้ที่บ่งบอกถึง ความเป็นทะเลทรายไว้หลาย ๆ จุด ทั้งใน บ้าน และรอบ ๆ บ้าน ด้านนอกตรง กับหน้าต่างบานใดบานหนึ่งเพื่อที่จะได้ชื่นชมได้ง่าย ๆ อย่างในห้องอาบน้ำที่แสนสบายด้วยอ่างแช่ตัวก็มีกระจกใสบานใหญ่ มองออไปเห็นสวน ต้นกระบองเพชร และเนินทรายที่ไกลออกไป ทำให้ห้องนี้ไม่เพียงแต่ใช้อาบน้ำทำธุระส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ให้ความสงบขั้นสุดอีกด้วย

การซื้อบ้านเก่ามาปรับปรุงใหม่ เริ่มเป็นที่นิยมกันมากขึ้นในไทยด้วยเช่นกัน เพราะที่ดินราคาแพงมากขึ้นโดยเฉพาะในตัวเมือง การสร้างบ้านใหม่หรือซื้อบ้านในโครงการจัดสรรจึงมีราคาสูงลิ่วตามไปด้วย phuket property

ห้องน้ำสวยๆ

สำหรับบ้านที่สร้างนานแล้ว ไม่ได้อยู่ในทำเลทองราคาก็จะตกลงมา ทำให้การเป็นเจ้าของบ้านเอื้อมถึงง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม บางโครงการอสังหามองจากภายนอกแม้จะดูดีแต่โครงสร้างภายในอาจซ่อนปัญหาใหญ่เอาไว้ ทำให้ต้องแก้ไขเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่คุ้ม ก่อนตัดสินใจซื้อจึงควรจ้างวิศวกรตรวจสอบโครงสร้าง เสา ผนัง คาน ของบ้านเสียก่อนเพื่อความปลอดภัย

บทความแนะนำ