บ้านโมเดิร์นทรงกล่อง สวยๆ ทรงเรียบง่ายของคนรักบ้านสไตล์นี้

บ้านโมเดิร์นทรงกล่อง สวยๆ บ้านโมเดิร์นทรงกล่อง สองหลังของพี่น้องที่ออกแบบให้แชร์พื้นที่คอร์ตเพื่อใช้งานร่วมกันเป็นบ้านพักผ่อนสำหรับให้ทุกคนในครอบครัวได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ออกแบบสเปซภายนอกและภายในต่อเนื่องสัมพันธ์กัน มีพื้นที่โล่งและการเว้นระยะห่างที่พอดีเพื่อสอดแทรกธรรมชาติ เกิดเป็นสเปซให้ความสัมพันธ์ของครอบครัวได้ก่อบทสนทนาระหว่างกัน

บ้านโมเดิร์นทรงกล่อง สวยๆ

บ้านตากอากาศริมทะเลสไตล์โมเดิร์น

ถ้ามีบ้านตากอากาศเทควิวทะเลได้ตลอดทั้งวัน ไว้ให้พักกายพักใจในช่วงหน้าร้อนสักหลัง คงจะมีความสดชื่นในชีวิตเพิ่มขึ้นอีกหลายระดับ บ้านตากอากาศที่เราคุ้นเคยมีหลากหลายรูปแบบ แต่ยุคนี้บ้านโมเดิร์นน่าจะเป็นอีกตัวเลือกแรก ๆ ที่ใครต่อใครมองหา เพราะรูปทรงเรียบง่าย วัสดุเข้ากันได้กับบริบทรอบด้าน และที่สำคัญคือการดีไซน์ที่สามารถลงตัวกับสภาพอากาศ สเปซภายในภายนอกคิดมาอย่างดีให้รองรับกิจกรรมของครอบครัวได้ดี เหมือนเช่นบ้านหลังนี้ที่สร้างอยู่บนเกาะริมทะเลในออสเตรเลีย

บ้านกล่องตากอากาศ หลังนี้ชื่อ Wilson’s Cottage อยู่บนเกาะ Lizard ของ North Queensland ประเทศออสเตรเลีย แนวคิดการออกแบบของคือ ต้องการบ้านที่เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ และด้วยที่ตั้งเป็นเกาะซึ่งมีความอ่อนไหวทางนิเวศวิทยาทำให้การออกแบบต้องทำในขอบข่ายของกฎหมายสิ่งแวดล้อม ที่ต้องลดผลกระทบใด ๆ ต่อภูมิทัศน์ด้านล่าง

ทั้งการเลือกวิธีการก่อสร้าง วัสดุ และโทนสีของบ้าน ในด้านกระบวนการก่อสร้างนั้น วัสดุถูกส่งไปยังไซต์งานโดยเรือบรรทุกและถ่ายลงในโป๊ะลอยก่อนที่จะถูกลากลงบนชายหาด จากนั้นก็ใช้เครนขาสูง A Frame ที่มีลูกล้อและรอกในการช่วยขนย้าย ยก ทำให้ภูมิทัศน์ไม่ได้รับผลกระทบ โครงสร้างอาคารเป็นปูนและไม้สัมผัสกับพื้นดินเบา ๆ ดูกลมกลืนไปกับภูมิทัศน์

ดีไซน์บ้านเป็นกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ปกคลุมด้วยเปลือกนอก ด้วยไม้ท้องถิ่นที่มีคุณสมบัติแข็งแรงทนทานต่อสภาพอากาศแบบชายทะเล โครงสร้างที่เรียบง่ายผสมกับสีน้ำตาลของไม้ทำให้บ้านดูถ่อมตัว เข้ากันได้เป็นหนึ่งเดียวกับผืนดินและต้นไม้โดยรอบ

บ้านโมเดิร์นทรงกล่อง สวยๆ

บ้านตากอากาศ เปิดโปร่งรับไอทะเล

การออกแบบพื้นที่ใช้งานภายในแบ่งเป็น 3 โซนใหญ่ ๆ คือ พื้นที่นั่งเล่นกึ่งเอาท์ดอร์ ห้องนั่งเล่น และห้องนอนที่เชื่อมต่อกันหมด ทุกสเปซเน้นให้มีความโปร่งโล่ง มีช่องว่างขนาดใหญ่เพื่อรับความสดชื่นจากบรรยากาศและเปิดมุมมองบ้านให้เห็นความงดงามของมหาสมุทรและภูมิทัศน์โดยรอบเกาะได้ชัดเจน

ภายในบ้านจัดฟังก์ชั่นการใช้งานให้ลื่นไหลเข้าถึงกันได้หมด โดยพยายามใช้ผนังทึบมาเป็นตัวกั้น แต่ละพื้นที่ให้น้อยที่สุด ด้วยการยกระดับบ้านเป็นการแบ่งขอบเขตการใช้งาน เช่น ในห้องนั่งเล่น และห้องนอน ที่ทำให้ห้องนอนสูงกว่าห้องนั่งเล่น และติดตั้งบานชัตเตอร์ เพื่อให้สามารถปิด-เปิดเป็นส่วนตัวได้อย่างยืดหยุ่น

มุมนั่งเล่นริมหน้าต่าง บิวท์จากไม้เป็นรูปตัว L ตามรูปร่างของห้อง ทำให้มีพื้นที่ว่างกว้าง ๆ ตรงกลาง โทนในการตกแต่งเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ด้วยวัสดุไม้ดิบ ๆ เบาะหนัง งานผ้า สีเอิร์ธโทนสีเทา สีน้ำตาล และสีตามธรรมชาติของไม้ ที่ทำให้บรรยากาศอบอวลด้วยความสดชื่นและอบอุ่น

ห้องครัว

ฟาซาดเหล็กปั๊มรู ลดความแรงของลมและแสง

JDA ทำงานร่วมกับ Twofold Studio เพื่อสร้างการตกแต่ง ภายในของบ้าน จากการศึกษา วิเคราะห์ทิศทางแสง และลม ทำให้ทีมงานเลือกติดฟาซาดเป็นบานหมุนทางทิศ ตะวันตกเฉียงใต้ของอาคาร ฟาซาดนี้มีความพิเศษคือบานเป็นแผงเหล็กเจาะรูวงกลมเล็ก ๆ เต็มพื้นที่

ซึ่งในพื้นที่เรียกว่า cyclone shutters ช่วยบรรเทาผลกระทบ จากสภาพอากาศแบบชายทะเลที่มีลมค่อนข้างแรง และช่วยกั้นกรองแสงอาทิตย์ยามบ่ายที่รุนแรง รูพรุนนี้อนุญาตให้แสง เข้ามาบางส่วน จึงเกิดแสงและเงาตกกระทบภายในบ้าน ที่เปลี่ยนไปตามทิศทาง การเดินทางของดวงอาทิตย์ในแต่ละช่วงของวัน บ้านจึงเหมือนมีงานศิลปะที่สรรค์สร้างด้วยฝี มือมนุษย์และธรรมชาติ บ้านจัดสรร

ในบ้านตากอากาศที่ไม่ต้องการ พื้นที่ทำอาหารหนัก ๆ เคาน์เตอร์ครัวจึงทำขนาดกะทัดรัดบิวท์ด้านเดียว มีฟังก์ชันเตาปรุงอาหาร ซิงค์ล้าง พื้นที่เตรียมอาหาร เตาอบ ก็เพียงพอสำหรับการทำอาหารมื้อพิเศษทานกับครอบครัวที่รัก

ห้องนอนห้องน้ำสุนทรีย์ ด้วยความสดชื่นจากทะเล จากห้องนั่งเล่นมีบันได 3- 4 ขั้นนำทางขึ้นมาที่ห้องนอน ที่เปิดกว้างแต่เป็นส่วนตัว ด้วยผนัง 2 ชั้น ชั้นนอกเป็นฟาซาดบานหมุนที่ เต็มไปด้วยรูพรุน ส่วนชั้นในเป็นผนังงานสไลด์ เมื่อต้องการความเป็นส่วนตัว ก็เพียงดึงฟาซาดมาปิด ก็เก็บพื้นที่ส่วนตัวออกจากสายตาผู้คนที่ผ่านไปมาภายนอก ในขณะที่ยังเปิดออกรับลมให้ภายในเต็มไปด้วยสภาวะสบาย

ห้องนั่งเล่น

ห้องน้ำในตัวที่เปิดผนังได้กว้าง ทำให้ทุกครั้งที่อาบน้ำ ได้สัมผัสกับลมเย็น มองเห็นท้องฟ้ากว้างและทะเล เติมความสุนทรีย์ในชีวิต ในแบบที่หาไม่ได้ในเมืองที่แสนวุ่นวายห้องน้ำในตัวที่เปิดผนังได้กว้าง ทำให้ทุกครั้งที่อาบน้ำได้สัมผัสกับลมเย็น มองเห็นท้องฟ้ากว้าง และทะเล เติมความสุนทรีย์ในชีวิตในแบบที่หาไม่ได้ในเมืองที่แสนวุ่นวาย

ในแต่ละวันแสงที่ส่องลอด ฟาซาดทำให้เกิดเคลื่อนไหว ภายในด้วยเงาที่แปลกตา ตอนเย็นที่พระอาทิตย์ เริ่มโบกมือลาลับขอบฟ้าลงสู่ทะเล สมาชิกในบ้านก็จะชวนกันดึงเก้า อี้ออกมานั่งเล่นนอกบ้าน พร้อม ๆ กับกล่าวทักทายกลุ่มดาวที่ค่อย ๆ เปล่งประกายชัดขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากทานอาหารไปพลางพูดคุยกันไปพลางก็ถึงเวลาเอ่ย คำว่าราตรีสวัสดิ์ จบวันทีแสนสุขไปอีก 1 วันที่บ้านริมทะเล

ข้อดีข้อเสีย บ้านโมเดิร์นทรงกล่อง ที่ได้รับความนิยม 

แน่นอนว่า บ้านสไตล์โมเดิร์น เป็นบ้านที่หลายคนใฝ่ฝัน และชื่นชอบอย่างมาก แถมยังมีการออกแบบเรียบง่ายไม่ยุ่งยาก หากมีการนำมาสร้างที่ประเทศไทย สถาปนิกจึงมีการนำมาปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับ สภาพอากาศและความเป็นอยู่ของคนไทย โดยมีการยกหลังคาให้สูง เพื่อป้องกันความร้อน

ออกแบบปีกกันน้ำฝน เป็นต้น หากใครกำลังต้องการปลูก บ้านสไตล์โมเดิร์น หรือ ศึกษาหาข้อมูล วันนี้พี่เข้มาพร้อมกับ ข้อดีของบ้านสไตล์โมเดิร์น วิลล่าในป่าตอง เพื่อเป็นแนวทาง แต่ก่อนอื่นจะต้องบอกก่อน เลยว่ารูปแบบบ้านสไตล์โมเดิร์นมีการออกแบบมา เพื่อชาวตะวันตก หากมีการนำมาปลูกสร้างแน่นอนว่าจะต้องพบ เจอกับปัญหาบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างแน่นอน

1.กักเก็บความร้อนอยู่ภายในบ้าน
บ้านหลังคาทรงกล่อง มักจะกักเก็บความร้อนไว้ ภายในเนื่องจากพื้นที่ใต้หลังคามีความสูงไม่มาก ความร้อนจึงลอยตัวขึ้นสูง ไม่ได้และระบายออกได้ยาก อาจต้องติดตั้ง ช่องลมช่วยระบายร่วมด้วย

2.อากาศถ่ายเทได้น้อย
เมื่ออากาศภายในตัวบ้าน ไม่สามารถลอยตัวขึ้นได้สูง เนื่องจากพื้นที่ใต้หลังคามีความสูงจำกัด
ทำให้อากาศหมุนเวียน และถ่ายเทได้ยากกว่าหลังคาทรงสูง

3.ระบายน้ำฝนได้ยาก
หลังคาโมเดิร์นทรงกล่องมีองศาลาดชันน้อย หรือไม่มีเลย เมื่อเวลาฝนตกน้ำมักจะขังอยู่บนหลังคาทรงราบ ซึ่งแตกต่างจากหลังคาทรงจั่ว บ้านพูลวิลล่า ที่มีความลาดชันสูง น้ำฝนสามารถระบายไหลลงได้ง่ายกว่า phuket property

4.ไม่มีกันสาดเวลาฝนตก
เวลาฝนตกคือน้ำฝน มักจะกระเด็นสาดเข้าสู่ตัวบ้าน เพราะบ้านแบบกล่องจะไม่มีกันสาดจากหลังคา ยื่นออกมาป้องกัน ทำให้ตัวบ้านเปียก สีซีดจางและเกิดเชื้อราได้ง่ายกว่าบ้านหลังคาทรงจั่ว

5.หลังคาชำรุดง่าย
น้ำฝนระบายลงจากหลังคาได้ยาก และเกิดน้ำขังอยู่ด้านบน หลังคาชำรุดชำรุดได้ง่ายกว่าหลังคา ปกติหลายเท่า นอกจากนี้หลังคาแบนราบนี้ ต้องเผชิญกับแสงแดดร้อน สาดส่องมาเต็มพื้นที่ด้วย

6.เสี่ยงรั่วซึมได้มากกว่าปกติ
หลังคาที่มีน้ำขังอยู่บนดาดฟ้า หรือผืนหลังคาทรงราบ หากเลือกใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐานก็อาจเกิดการรั่วซึม อายุการใช้งานไม่ยาวนาน กระทบต่อพื้นที่ภายในตัวบ้าน ก่อให้เกิดความเสียหายได้

7.สถาปนิกออกแบบต้องมีความเชี่ยวชาญ
การสร้างบ้านโมเดิร์นทรงกล่อง ต้องใช้สถาปนิกที่มีความเชี่ยวชาญ เพราะโครงสร้างส่วนต่างๆต้องมี การออกแบบเพื่อให้ได้พื้นที่ รูปทรงเหมาะสม ป้องกันปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง

8.ดูแลรักษายากกว่าหลังคาทั่วไป
หลังคาทรงแบนราบนี้ จะดูแลยากกว่าหลังคา ทรงจั่วโดยทั่วไป ทั้งเวลาฝนตกและเวลาแดดร้อนจัด หลังคาของบ้านทรงกล่อง ชำรุดง่ายกว่าปกติ เจ้าของจึงต้องหมั่นดูแล รักษาหลังคาอย่างสม่ำเสมอ

9.ซ่อมแซมหลังคาได้ยาก
เมื่อหลังคาบ้านทรงกล่อง เกิดชำรุดจะซ่อมแซม ได้ยากกว่าปกติเนื่องจากโครงสร้างกลมกลืม เป็นส่วนเดียวไปกับตัวบ้าน ทำให้ขั้นตอนในการรีโนเวทจะมีความซับซ้อน และยุ่งยากกว่า บ้านทำเลดี

10.เสียค่าใช้จ่ายสูง
การก่อสร้างและซ่อมแซม บ้านโมเดิร์นแบบกล่อง ต้องใช้งบประมาณสูงในการก่อสร้าง โดยเฉพาะหากต้องใช้วัสดุ อุปกรณ์ที่มีคุณภาพ และทีมช่างที่มีความเชี่ยวชาญ ก็ต้องลงทุนมากเป็นพิเศษ

ข้อดีของการสร้างแบบบ้านโมเดิร์น

  • บ้านสไตล์โมเดิร์น เน้นความโปร่งโล่ง มีการออกแบบพื้นที่โล่ง เพื่อการใช้สอย ไม่นิยมก่อผนังกั้นมากเกินไป
  • มีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์เป็นระเบียบ เรียบง่าย ไม่เยอะ
  • การสร้างผนังแบบปูนเปลือย ที่ไม่จำเป็นต้องทาสี
  • พื้นบ้านที่ไม่ต้องมีการปูกระเบื้อง
  • ดีไซน์เรียบหรู ทันสมัย ดูแลรักษาง่าย บ้านเดี่ยว บ้านแฝด 
  • บ้านสไตล์โมเดิร์นมีการประหยัดงบประมาณ
  • พื้นเพดานบ้านสไตล์โมเดิร์น ไม่จำเป็นต้องมี การทำเพดานฝ้า
  • โครงสร้างบ้านก็ไม่ซับซ้อนมาก Home

ข้อเสียของการสร้างแบบบ้านโมเดิร์น

  • บ้านสไตล์โมเดิร์นดูแข็ง ไม่อบอุ่นเท่าสไตล์อื่น ๆ
  • องค์ประกอบต่าง ๆ ไม่เหมาะสมกับสภาพ อากาศร้อนในเมืองไทย
  • กระจกบานใหญ่ อาจทำให้แดด และความร้อนเข้าบ้านมากเกินไป
  • บ้านทรุดโทรมได้ง่าย จัดสวนในพื้นที่บ้าน

บทความแนะนำ